วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาการว่างงาน

สมมุติฐาน
   1.การว่างงานเกิดจากการเลือกงานไหม?
  ปัจจัยที่นำมารองรับสมมุติฐานข้อนี้คือ
กลุ่มอายุ 18 - 30 ปีสนใจทำงานในบริษัท/องค์กรกำลังขยายกิจการหรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตมากที่สุด ในขณะที่คนในวัย 31 – 40 ปีให้ความสำคัญน้อยที่สุด

เหตุผลในการเลือกงาน
อันดับ เหตุผลในการเลือกงาน คะแนน
1 บริษัท/องค์กรที่มั่นคง ใหญ่โต มีชื่อเสียงมายาวนาน 193
2 มีโอกาสก้าวหน้าและเติบโต 180
3 เงินเดือนและสวัสดิการ 121
4 มีสิ่งน่าสนใจให้เรียนรู้ 106
5 ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ 83
6 บริษัท/องค์กรกำลังขยายกิจการหรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต 75
7 บริษัท/องค์กรมีบทบาทช่วยเหลือสังคม 68
8 เป็นบริษัท/องค์กรข้ามชาติหรือมีทีมงานเป็นชาวต่างชาติ 58
9 สถานที่ทำงานใกล้บ้าน 48
10 สถานที่ทำงานติดหรือใกล้รถไฟฟ้า/รถใต้ดิน 23

ผลสำรวจพบด้วยว่าทัศนคติในการเลือกงานของคนรุ่นใหม่ยุคนนี้ ให้ความสำคัญกับบริษัทหรือองค์กรที่มั่นคงใหญ่โต มีชื่อเสียงมายาวนาน อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต หรือได้ทำในองค์กรข้ามชาติ ทำงานแล้วมีโอกาสก้าวหน้าและเติบโต มากกว่าการเลือกที่เงินเดือนและสวัสดิการ
             การว่างงาน (Unemployment) หมายถึง ภาวการณ์ที่บุคคลในวัยแรงงานที่พร้อมจะทำงานแต่ไม่สามารถหางานทำได้ หรือเจ็บป่วย รองานใหม่ หางานที่เหมาะสมไม่ได้ บุคคลในวัยแรงงานจะพิจารณาผู้ที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป ส่วนแรงงานที่ไม่ได้อยู่ในวัยแรงงาน ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา นักบวช ผู้ที่เกษียณอายุ ผู้เจ็บป่วยพิการทางร่างกายและสติปัญญา และผู้ทำงานอยู่ในครัวเรือน ซึ่งขนาดของบุคคลในวัยแรงงานเล็กกว่าขนาดของประชากรของประเทศ (Total Population) เพราะประชากรของประเทศประกอบด้วยเด็ก ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวัยแรงงาน และผู้ที่อยู่ในวัยแรงงาน

ขณะที่การทำงานในองค์กรที่มีความน่าสนใจให้เรียนรู้ และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการจราจรอันติดขัดที่ต้องเผชิญอยู่ ทำให้การเลือกสถานที่ทำงานที่อยู่ใกล้บ้าน และเดินทางสะดวก ใกล้กับรถไฟฟ้า ก็เป็นสิ่งที่คนยุคนี้ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน หากลงลึกถึงรายละเอียด พบว่า ผู้หญิงต้องการทำงานได้ใช้ภาษาต่างประเทศมากกว่าผู้ชาย และต้องการเดินทางสะดวกมากกว่าเพศชาย แต่ทั้งหญิงและชายต่างก็ต้องการทำงานใกล้บ้านเหมือนๆ กัน

    2.การว่างงานเกิดจาก การปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันไหม?

การที่ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ทำให้เจ้าของธุรกิจเลือกแรงงานต่างด้าว มาทำงานมากกว่าแรงงานไทยขณะที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในจังหวัดจันทบุรีจำนวนมาก ได้หันมาใช้วิธีจ้างแรงงานต่างด้าวแรงงานต่างด้าวเฉพาะผู้มีหนังสือผ่านแดนอยู่ในไทยในระยะสั้น และปรับขึ้นค่าแรงจากวันละ 150 บาท เป็น 200 บาทเท่านั้น เพราะแรงงานที่อยู่ได้ระยะยาวซึ่งต้องจ่ายค่าแรงวันละ 300 บาท สูงเกินกว่าจะจ้างไหว ด้านผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวในจังหวัดระนองจำนวนมากเริ่มทยอยปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทแล้ว

ขณะที่หอการค้าจังหวัดระนองคาดการณ์ว่า ในปีนี้จะมีแรงงานพม่าจะไหลทะลักเข้าไทยอีกนับล้านคน เนื่องจากปัจจุบันค่าจ้างแรงงานในพม่าตกเพียงวันละ 30 บาท หรือเดือนละ 900 บาท เท่านั้น ซึ่งต่างกับค่าแรงขั้นต่ำของไทยถึง 10 เท่าตัว จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทย 

4 ผลกระทบของการเกิดวิกฤติระบบการเงินโลก 
           วิกฤติการณ์การเงินโลก ในขณะนี้ได้อยู่ในระดับที่เกิดบาดแผลฉกรรจ์ อาบเลือดที่ลึกเข้าไปถึงมันสมองของระบบ จนเป็นเหตุให้อวัยวะบางส่วนของมันต้องเป็นพิการ และเส้นโลหิตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องแข็งตัว และส่งผลกระทบที่เลวร้ายดังนี้
1. เกิดภาวะหวั่นวิตกโกลาหล และขาดสติกับมนุษย์โดยทั่วไป จึงขอยกตัวอย่างกลุ่มบุคคลที่ประสบกับภาวะดังกล่าวที่เลวร้ายดังนี้คือ
ผู้นำ นักปกครอง และบุคคลในระดับรัฐมนตรี
เจ้าของสถาบันการเงิน และผู้ที่ดำเนินกิจการในตลาดการเงิน
เจ้าของสถาบันการเงินที่เป็นตัวแทน
เจ้าของเงินฝากในธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นๆ
ลูกหนี้ของธนาคาร และผู้ที่มีพันธะกิจการธนาคาร และเช่นเดียวกับเจ้าของเงินฝาก
ผู้บริโภคต้องประสบกับการเสี่ยงของภาวะสินค้าราคาสูง
เจ้าหน้าที่ และคนงานต่างก็เสี่ยงต่อภาวะการตกงาน
บุคคลผู้ยากไร้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับการได้รับการสงเคราะห์ และเงินบริจาคทาน
     วิกฤติการณ์เหล่านี้ประดุจดังมะเร็งในเม็ดเลือดที่เริ่มขยายตัวอยู่ในสายเลือด ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของระบบเศรษฐกิจ

2. การล้มละลายของสถาบันการเงินต่างๆ ด้วยกับสาเหตุที่ขาดสภาพคล่อง และอัตราการถอนเงินคืนของผู้ที่ฝากเงิน จนเป็นเหตุให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ต้องเข้ามากู้วิกฤติโดยผ่านธนาคารกลางของรัฐเข้ามาอุ้มชูธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เหลืออยู่ เพียงเพื่อพยุงความอยู่รอดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ และรัฐก็อาจจะตกอยู่ในสภาพที่ล้มละลาย

3. การล้มละลายของบริษัทต่างๆที่ดำเนินธรุกิจบนบรรทัดฐานของการระดมทุน โดยการกู้หนี้ด้วยระบบดอกเบี้ย หรือบางบริษัทอาจจะต้องหยุดกิจการลงในบางภาคส่วนของการผลิต และในทำนองเดียวกันบางบริษัทก็เริ่มสะสางกิจการด้านการประกันและหลักทรัพย์ประกันต่างๆ ดังกล่าวนี้คือสาเหตุของการความระส่ำระส่ายทางแรงกระตุ้นทางเม็ดเงินของบริษัทพานิชย์ดังกล่าว

4. อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดการจ้างงานที่น้อยลง แต่อัตราการเรียกร้องการช่วยเหลือทางสังคม และจากภาครัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เท่ากับเพิ่มภาระที่หนักอีกด้านหนึ่งให้กับงบประมาณของรัฐบาล จนเป็นเหตุให้รัฐต้องระงับโครงการการลงทุนใหม่ๆ เนื่องจากต้องมาโอบอุ้มสังคมโดยรวม

5. ในบางประเทศต้องหาทางออกด้วยกับการเพิ่มอัตราการเก็บภาษี เพื่อชดเชยกับเม็ดเงินงบประมาณแผ่นดิน เนื่องจากรัฐบาลต้องทุ่มเม็ดเงินในการช่วยเหลือและพยุงบริษัท และธนาคารต่างๆที่อยู่ในภาวะที่ล่อแหลมต่อการล้มเหลว ต่อการล้มละลาย หรือเข้าไปช่วยเหลือเงินฝากและอื่นๆ

6. ผู้เป็นหนี้ได้สูญเสีย ทรัพย์สมบัติและที่อยู่อาศัย เนื่องจากการถูกยึดด้วยกับการเป็นหนี้ จนทำให้พวกเขาต้องไร้ที่อยู่อาศัย ผู้ยากไร้ขัดสน และเป็นผู้พลัดถิ่นลี้ภัย
           สรุปการว่างงานนั้น
ค่อนข้างจะมีผลกระทบอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้เพราะคนที่ว่างงานหรือตกงานนั้น มักเห็นได้ทั่วไป ที่ต้องการงานดีๆและมีเงือนเดือนเยอะๆ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน หรือหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ ดังนั้น เราก็ควรที่จะดุสภาพความเป็นจริงด้วยว่า เรามีความสามารถพอไหมที่จะทำงาน ดีๆกับเงินเดือนแพงๆ เพื่อความอยู่สบายของตัวเราเอง
          การว่างงานมีสาเหตุต่างๆ ซึ่งทำให้สังคมต้องเสียผลประโยชน์จากทรัพยากรแรงงานที่รัฐบาลลงทุนสร้างประสิทธิภาพโดยเฉพาะการศึกษา รัฐบาลจึงมีนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาการว่างงานดังนี้
การแก้ปัญหาการว่างงานชั่วคราว ทำได้โดยการให้บริการข่าวสารแก่คนงานและนายจ้างเพื่อให้ทราบแหล่งงานหรือจัดตลาดนัดแรงงานเพื่อให้คนงานและนายจ้างพบกันขึ้นสะดวก
การแก้ไขปัญหาการว่างงานตามฤดูกาล ทำได้โดยการกระตุ้นให้คนงานทำงานอื่นๆ เมื่อพ้นฤดูกาลทำงานประจำ
การแก้ปัญหาการว่างงานเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีถ้าหากมีการนำมาใช้โดยไม่จำเป็น รัฐบาลก็อาจต้องมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นขณะเดียวกัน ต้องมีการศึกษาฝึกหัดอบรมคนงานให้มีความสามารถที่จะโยกย้ายงานได้

นโยบายการเงิน รัฐบาลควรใช้มาตรการทางการเงินเพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศซึ่งจะมีผลทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง การลงทุนของประเทศสูงขึ้น การผลิต การจ้างงานขยายตัว
นโยบายการคลัง รัฐบาลต้องเพิ่มการใช้จ่ายและลดอัตราภาษีให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการผลิตการส่งออกและการบริโภค ส่งผลให้การจ้างงานสูงขึ้น
นโยบายการศึกษา การวางแผนการศึกษาให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษา และต้องกำหนดโครงสร้างการศึกษาให้เหมาะสมกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ ให้การศึกษาที่ตรงความต้องการของตลาด และความจำเป็นของประเทศ


ที่มา: http://www.dek-d.com/board/view/2682649/

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจารย์สั่งมาเลยต้องทำ ถ้าไม่ทำไม่มีคะแนน แต่ว่าตอนนี้ขี้เกียจมากเลยยอมโดนตีดีกว่า

    ตอบลบ